ใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

อีกหนึ่งไอเท็มคู่กายสำหรับฤดูร้อนนี้จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากครีมกันแดดแบบกันน้ำ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในร่มตลอด แต่ระหว่างวันก็อาจต้องออกไปเจอความร้อน หรือเดินทางกันบ้าง ครีมกันแดดทั่วไปไม่สามารถเอาอยู่แน่นอน การใช้ครีมกันแดดชนิดกันน้ำจะช่วยกันได้ทั้งเหงื่อ ละอองน้ำ ละอองฝน และแม้กระทั่งกิจกรรมกลางแจ้ง เล่นน้ำ ก็ยังเอาอยู่ถ้าคุณให้ให้ถูกกันแดดชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพสูงสุดกับผิวคุณได้แน่นอน

1. เลือกครีมกันแดดกันน้ำที่ดีต่อผิว
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่มี SPF เหมาะสม สำหรับแดดบ้านเราต้องใช้ SPF ตั้งแต่ 30 – 50 มีค่า PA+++ ที่แสดงให้เห็นว่าป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB คือป้องกันทั้งความหมองคล้ำ และป้องกันการเกิดริ้วรอยที่มาจากแดดได้ สำหรับกันแดดกันน้ำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า Waterproof หรือ Water – resistant เช่นของ Elisees Sun Protection SPF 50/PA+++ Water resistant เป็นครีมกันแดดเนื้อกึ่งโลชั่นซึมซาบเข้าสู่ผิวง่ายปกป้องผิวได้ยาวนาน 50 เท่า สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA / UVB ป้องกันการเกิดฝ้า กระ ริ้วรอยก่อนวัย และความหมองคล้ำ มีคุณสมบัติกันน้ำ

2. ปริมาณทีเหมาะสม
- สำหรับครีมกันแดดทาหน้า ใช้ปริมาณเท่ากับเหรียญ 10 บาท สำหรับใบหน้าและลำคอ
- สำหรับครีมกันแดดทาตัว ตั้งแต่บริเวณแผ่นหลัง แขน ขา ใช้ปริมาณประมาณ 1 แก้วช็อต หรือ 30 ออนซ์

3. ทิ้งระยะเวลาให้ครีมซึมเข้าสู่ผิว 20 นาที ก่อนออกแดด

4. ทาครีมซ้ำทุก 2 ชั่วโมง แต่สำหรับคนที่เล่นน้ำหรือมีเหงื่อออกมากเมื่อออกกำลังกายกลางแจ้งมีแดดจัด ให้ทาซ้ำทุก 80 นาทีโดยใช้ครีมกันแดดชนิดกันน้ำ

5. ไม่เอาครีมกันแดดทาตัวมาทาหน้า เพราะเนื้อครีมไม่เหมาะในเนื้อโลชั่นทาตัวจะมีปริมาณน้ำมันเยอะกว่ามีความอ่อนโยนน้อยกว่าครีมกันแดดทาหน้าจึงอาจทำให้เป็นสิวง่าย

6. ระวังครีมกันแดดหมดอายุ บางคนที่ไม่ค่อยได้ใช้ครีมกันแดดอาจเก็บไว้นานจนลืมดูวันหมดอายุ ครีมกันแดดที่เลยวันหมดอายุหรือเปิดใช้มานานกว่า 12 เดือน ประสิทธิภาพการป้องกันผิวจะน้อยลงมากจึงไม่ควรนำมาใช้อีกต่อไป

รู้จักวิธีการดึงประสิทธิภาพของครีมกันแดดกันน้ำมาใช้ได้อย่างสูงสุดแล้วก็อย่าลืมนำไปใช้เพื่อป้องกันผิวในฤดูร้อนนี้กันนะคะ จะได้มีผิวสวยไม่ต้องกังวลใจกับเรื่องผิวเสียเพราะแสงแดดอีกต่อไป